วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มารู้จัก "สถาปนิกรุ่นพี่" ลาดกระบังฯ

"พี่วาว"
สุปัญญา สาลี
สถาปนิกรุ่นพี่ลาดกระบังฯ รุ่นที่27
จบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ลาดกระบัง ปี47
ปัจจุบันทำงานอยู่ที่บริษัท RAFA PLUS ARCHITECT

พี่วาว จบปีจากลาดกระบังเมื่อปี 47 แล้วก็ทำงานก่อน คือตั้งแต่เรียนจบคือวางแผนไว้ก่อนแล้วว่าจะเรียนต่อ แต่อยากเสี่ยงออกไปลองทำงานหาประสบการณ์ก่อน เพื่อที่อยากจะรู้ว่าในช่วงที่เราทำงานอยู่นั้นเรายังขาดความรู้เรื่องอะไรบ้าง และสิ่งที่เราได้วางแผนไว้ตอนแรกว่าอยากจะเรียนนั้นใช่หรือเปล่า หลังจากได้ทำงานอยู่ประมาณ 2-3 ปี จึงได้เรียนต่อ

ช่วงการทำงาน 2-3 ปีแรก
ในช่วงแรกทำงานเกี่ยวกับเอกสาร Real estate ร่วมงานกับ developer ที่ดูงานอยู่บริเวณรังสิต แล้วพอได้เป็น Designer ในตอนแรกคิดว่าจะได้ทำงานแค่ออกแบบบ้าน Town House เพราะจากการตลาดที่ได้ทำอยู่จะเกี่ยวกับบ้าน Town House แต่พอได้เข้าไปทำงานจริงกับมีงานหลากหลายมากกว่านั้น มีทั้ง Condominium , Community Mall  ได้ให้ลองทำ ด้วยจากที่บริษัทเป็นองค์กรขนาดใหญ่ การทำงานจึงแตกต่างจาก Office Architect  ซึ่งการทำงานจะอยู่ในขอบเขตของเวลา การทำงานจึงจะไม่เร่งรีบมาก จำนวน Project ที่ต้องทำจะไม่มากเท่ากับจำนวน Project ที่ทำอยู่ใน Office Architect มีอยู่บางครั้งที่จะทำงาน 2 Project ควบคู่กันไป ในช่วงการทำงาน 2-3ปีแรกภาระงานจะยังไม่หนักมากนัก จึงยังพอมีเวลาที่จะสามารถหางานพิเศษนอกเวลาทำเพื่อฝึกทักษะของตัวเองได้ด้วย โดยงานที่รับทำจะเป็นพวกงาน Presentation ,งานออกแบบขนาดเล็ก

ช่วงเรียนต่อ ป.โท หลังจากจบการทำงานที่วังทอง
ได้เรียนต่อป.โท ด้าน Architectural Management เหตุผลที่เลือกก็มาจากความชอบและความความสนใจของตัวเอง ประกอบกับเป็นสิ่งที่เราถนัด และเป็นสิ่งที่ได้วางแผนไว้แล้วตั้งแต่ตอนเรียนจบจากลาดกระบัง โดยเน้นในด้าน Project Management เป็นหลัก ในช่วงระหว่างที่เรียน ป.โท ก็ยังทำงานที่บริษัท ระฟ้า และรับงานนอกเวลาไปด้วย ถึงแม้ว่าช่วงเวลาเรียน ป.โท จะตรงกับช่วงเวลาของการทำงานปกติ แต่ด้วยทางบริษัทระฟ้าสามารถให้ตัวสถาปนิกเองนั้นสามารถบริหารจัดการเรื่องของเวลาการทำงานพร้อมไปกับการเรียนของเราเองได้ ซึ่งในช่วงระหว่างที่เรียนทางบริษัท ระฟ้า (พี่อนุชา)ยังจัดสรรงานให้เหมาะสมกับเวลาของตัวเราเอง โดย Project ที่ได้รับยังสามารถทำคนเดียวได้เสร็จโดยที่ไม่ต้องเป็นภาระของคนอื่นอีกด้วย หลังจากจบ ป.โท ก็ได้เข้า Office มาทำงานที่บริษัท ระฟ้า จนถึงปัจจุบัน


ลักษณะการปฏิบัติวิชาชีพ
ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่ง Project Manager คือเป็น Designer และบริหารงานออกแบบ โดยแนวทางการงานของบริษัท ระฟ้า จะไม่มีรูปแบบ Style ที่ชัดเจน และไม่เอาลายเซ็นต์ของบริษัทเข้าไปในงานของลูกค้า แต่จะมุ่งเน้นการทำงานให้ตรงตามโจทย์ของลูกค้าเป็นหลัก ผลงานที่ออกมาของบริษัท ระฟ้า จึงมีผลงานหลากหลายประเภท โดยลักษณะการทำงานที่บริษัท ระฟ้า หน้าที่หลักจะเป็นการบริหารโครงการออกแบบ ซึ่งจะบริหารคุณภาพ(Quality)ของงานออกแบบ การควบคุมระยะเวลาการทำงานให้เสร็จสิ้นตามกำหนด และอยู่ในงบประมาณของการก่อสร้างและค่าใช้จ่ายในการจัดทำแบบด้วย พร้อมทั้งการบริหารบุคลากรให้เหมาะสมกับงาน และในส่วนของการทำงานออกแบบที่ยังทำอยู่ด้วย โดยจะเริ่มทำตั้งแต่ขั้นตอนการคิด Conceptual Design ไปจนการก่อสร้างแล้วเสร็จ 

ในส่วนขั้นตอนการทำงานออกแบบจะเริ่มด้วยการรับฟังข้อมูลและความคิดเห็นของลูกค้า จากนั้นก็จัดทำแบบเพื่อเสนอลูกค้าดูก่อนในครั้งแรก เพื่อเป็นการดูว่าแนวทางการทำงานเป็นไปได้ด้วยกันไหม ถ้าเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายก็จะตกลงเซ็นสัญญากัน ต่อมาหลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการพัฒนาแบบจนสามารถมีลายละเอียดให้ลูกค้า และพัฒนาในส่วนของการทำแบบขออนุญาติกับแบบก่อสร้าง ไปจนถึงขั้นตอนการก่อสร้าง คือมีการไปตรวจงานให้ลูกค้าเป็นระยะๆตามกำหนด แต่ไม่ได้ดูแลในส่วนของการคุมงานก่อสร้าง


ข้อคิดที่สำคัญในการทำงาน
การค้นหาเป้าหมายที่ความชัดเจน มีความสำคัญมากในมุมมองของการทำงาน เพื่อที่เราจะได้พัฒนาในสิ่งที่ตัวเรานั้นสนใจ จนเป็นจุดเด่นของตัวเรา จนคนอื่นสู้ไม่ได้ และถ้าเรามีความชัดเจนในสิ่งที่เราต้องการ คนรอบข้างก็จะมีส่วนช่วยในการผลักดันเรา และช่วยพัฒนาให้ไปถึงเป้าหมายที่เราต้องการ

ส่วนแผนการการทำงานที่ตั้งเป้าไว้ต่อจากปัจจุบัน ก็คืออยากจะพัฒนาองค์กรให้มีความยั่งยืนมากขึ้น ประกอบกับการที่องค์กรกำลังโตและขยายตัวทำให้มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนคนในองค์กร จึงจำเป็นต้องการการพัฒนาระบบให้มีความชัดเจนมากขึ้น

จรรยาบรรณวิชาชีพ
"เรื่องของความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพที่เราทำอยู่ ถ้าเรามองว่าวิชาชีพของเรานั้นมีเกียรติ และเราก็ทำงานด้วยความเคารพ คนรอบข้างก็จะให้ความน่าเชื่อถือต่อตัวเรา ...แต่บางคนอาจจะมองแค่ว่าการทำงานนั้นเป็นเพียงธุรกิจ ก็เหมือนกับเป็นเพียงพ่อค้าขายของ ไม่ได้มีความเป็นมืออาชีพ(Professional) แต่ถ้าเรามีความเป็นมืออาชีพก็จะดู SMART กว่า"

เรื่องของการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม ในตอนนี้คิดว่ายังเป็นเรื่องที่พิเศษสำหรับเจ้าของโครงการ(owner) ถ้าเจ้าของโครงการไม่ได้มีความต้องการที่จะให้เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ก็จะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากในการทำงาน ประกอบกับราคาที่ยังค่อนข้างสูงและยังนำไปประยุกต์ใช้ไม่ได้มาก เจ้าของโครงการส่วนใหญ่จึงยังไม่เห็นด้วยกับการนำไปใช้ในโครงการทั้งหมดในตอนนี้ แต่องค์กรก็ยังมีการศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติ่มต่อยอดไปด้วย

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ สถาปนิกรุ่นใหม่ ที่ลาดกระบังผลิตออกมา
คิดว่าสถาปนิกลาดกระบัง เมื่อเทียบกับสถาปนิกจากที่อื่น สถาปนิกลาดกระบังจะทำงานค่อนข้างมาก และเน้นการปฎิบัติในการทำงานจริงเป็นหลัก จึงมีความคิดเห็นว่าอยากให้ทางคณะพัฒนาสถาปนิกรุ่นใหม่ ให้มีความกล้าหลุดกรอบในการออกแบบ เพื่อที่จะให้เกิดงานที่แปลกใหม่มากขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในพื้นฐานเดิมของความเป็นจริงที่เป็นจุดเด่นของลาดกระบังอยู่แล้ว
ความคิดเห็นในของเรื่องการเรียนต่อเพื่อต่อยอดในอนาคต คืออยากให้ลองศึกษาในด้านสาขาวิชาอื่นๆ เพื่อที่จะได้มีจุดเด่นที่มากขึ้นในการทำงานในอนาคต

เรื่องเล่าบรรยากาศในสมัยเรียนที่ลาดกระบัง
ตอนที่เรียนลาดกระบัง ก็พักอยู่ที่หอพักเนื่องจากบ้านอยู่ที่รังสิตจึงไกลจากที่เรียนมาก สมัยที่เรียนก็ได้ใช้ชีวิตแบบผูกพันกับการเรียน กับเพื่อนๆเรียนด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน รุ่นพี่วาวมีเพื่อนผู้หญิงอยู่ในรุ่นของพี่วาวมี 8 คน รวมตัวพี่วาวก็มีทั้งหมด 9 คน จากทั้งห้องที่มีผู้ชาย 40 กว่าคน และเนื่องจากสมัยนั้นคนในภาคยังไม่ค่อยเยอะมากนัก ก็จะจำเพื่อนๆพี่ๆน้องๆได้กันเกือบทั้งหมด ในช่วงที่เรียนก็ค่อนข้างเป็นเด็กเรียน พอมีกิจกรรมในคณะก็จะร่วมด้วย แต่ก็ไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมไกลๆนอกคณะ แต่การทำกิจกรรมกับคณะก็ช่วยทำให้เราได้มีความสัมพันธ์กับคนอื่นๆที่ดีๆในอนาคตได้ด้วย และรุ่นปีพี่วาวก็เป็นรุ่นที่ริเริ่มแข่งกีฬากันในภาคสถาปัตย์ ที่จัดแข่งขันนักกีฬาแต่ละชั้นปีมาเจอกัน โดยเริ่มแรกก็แค่อยากจะจัดแข่งขันกันสนุกๆเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง จนได้รับความนิยมจนมาถึงรุ่นน้องปัจจุบันจนถูกเรียกว่ากลมเกมนั่นเอง

สุดท้ายนี้ ก็อยากจะขอขอบคุณ สถาปนิกรุ่นพี่ลาดกระบัง พี่วาว รุ่นพี่ปี27 ที่ได้ให้โอกาศมาสัมภาษณ์ ได้พูดคุยทำความรู้จักกัน ทำให้ผมได้เปิดมุมมองทางคิดในหลายๆด้าน และทำให้ผมรู้สึกดีใจอีกครั้งที่ได้เข้ามาเป็นรุ่นน้องสถาปัตย์ลาดกระบัง และขอขอบพระคุณผู้สอนวิชา Professional Practice อ.ไก่ ไกรทอง ที่มอบโอกาศที่ดีๆนี้ขึ้นมา ขอบคุณครับ


Special Thank
: ขอขอบคุณบริษัท RAFA PLUS ARCHITECT ที่เอื้อเฟื้อสถานที่สัมภาษณ์ (และพี่ที่ช่วยถ่ายรูปให้ด้วย)

Interview by 
: นพัตธร จิตวีรภัทร รหัส 52020041
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ชั้นปีที่ 4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น