Professional Practice Assignment #1
"วิชาชีพสถาปนิกในทรรศนะคติของข้าพเจ้า"
ปฐมบท
“ผมเป็นคนชอบวาดรูป ผมเรียนสายวิทย์
และผมชอบฝันกลางวัน...แล้วอะไร...? อะไรที่จะเหมาะกับเราในตอนนี้”
นี่คือโจทย์สมการที่ผมใคร่ครวญคิดหาคำตอบให้กับตัวเองในชีวิตตอนเรียนมัธยมปลาย...ว่าสิ่งใดที่จะเหมาะกับสิ่งที่ผมเป็นอยู่ในตอนนั้น...
แล้ววันหนึ่งผมได้ค้นพบว่าสิ่งที่น่าจะเหมาะ
และสามารถที่จะทำให้ผมยังคงเป็นตัวของตัวเองอยู่ได้ นั่นคือการเรียนสถาปัตย์ จากคำแนะนำและการชักชวนของอาจารย์กับเพื่อนของผมจึงทำให้ผมได้ตัดสินใจที่จะเรียน ติวสถาปัตย์
ช่วงฝึกฝนเตรียมตัว
จากคำแนะนำจากอาจารย์จึงทำให้ผมได้มาลงเรียนติวสถาปัตย์
ณ สถาบันติวแห่งหนึ่งแถววังหลัง
ในวันแรกของการเรียนติวสถาปัตย์ของผม
ผมจำได้แม่นเลยว่าพี่ติวของผมพูดออกมาว่า “มึงมาเรียนทำไมวะ
รู้มั้ยว่ามันเหนื่อย เรียนลำบาก เสียเงินเยอะ จบมาทำงานไม่ได้เงิน โดนโกง...!@#$%ฯลฯ บ่นด่าไปต่างๆนาเกี่ยวกับข้อเสียของการเรียนสถาปัตย์ ในใจของผมตอนนั้นก็คิดแค่ว่ามันคงเป็นแค่การทดสอบกำลังใจ ผมจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมัน ในตอนนั้นผมคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้ผมสามารถสอบติดคณะสถาปัตย์ที่ผมต้องการได้
ผมมุ่งมั่นเรียนติวสถาปัตย์ต่อเนื่องตั้งแต่
ม.4 จนกระทั่งถึง ม.6 พอถึงช่วงใกล้สอบพี่ติวของผมได้แนะนำมหาวิทยาลัยและสถาบันที่เปิดสอนคณะสถาปัตย์ที่มีชื่อเสียงที่น่าจะไปเรียนต่อในอนาคต
และที่ที่ผมอยากจะเข้าไปเรียนและสนใจก็มีทั้งหมด3แห่ง
แต่ที่เปิดสอบตรงกลับมีเพียง2แห่ง นั่นก็คือศิลปากร
กับลาดกระบัง ในตอนนั้นผมวางแผนไว้ว่าจะไปสอบตรงคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ภาควิชาสถาปัตยกรรมของทั้ง 2 แห่ง
และจะต้องทำคะแนนความถนัดความถนัดสถาปัตย์ให้ได้มากเพื่อที่จะยื่นสอบกลางได้ด้วย
หลังจากการสอบตามสถานที่ต่างๆเสร็จสิ้น ผมพบว่าแผนที่ผมได้วางเอาไว้นั้นไม่ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์
เพราะคะแนนความถนัดสถาปัตย์ของผมไม่ได้สูงอย่างที่ผมตั้งใจเอาไว้
และคะแนนรวมอาจไม่พอสำหรับยื่นสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่ต้องการได้
ผมจึงคาดหวังไว้กับการสอบตรงอย่างมากหวังว่าจะติดสอบสัมภาษณ์ของทั้ง2แห่ง พอถึงวันประกาศผลสอบตรง
ผมได้เปิดดูประกาศทางอินเตอร์เน็ตและหาชื่อของผมว่าจะสอบติดสัมภาษณ์หรือไม่ แต่แล้วผมก็ไม่พบชื่อของตัวเองเลยทั้ง2แห่ง
ในตอนนั้นผมมีความรู้สึกเครียด และกดดันเป็นอย่างมากว่าจะทำยังไงต่อไปดี?
จนกระทั่งวันหนึ่งก่อนสอบสัมภาษณ์สถาปัตย์ลาดกระบัง
3 วัน เพื่อนของผมโทรมาแสดงความยินดีกับผมที่ได้สอบสัมภาษณ์ที่ลาดกระบัง พอผมได้ยินในสิ่งที่เพื่อนผมบอก(ในตอนนั้นผมคิดว่ามันต้องเป็นการเล่นตลกแกล้งกันแน่ๆ)
ผมโกรธและโมโหด่าเพื่อนไป
จนกระทั่งเพื่อนท้าให้ผมลองตรวจดูลายชื่ออีกครั้งหนึ่ง และนั่นเองละครับอยู่ดีๆก็มีชื่อของผมอยู่ในรายชื่อสอบสัมภาษณ์สถาปัตย์ลาดกระบังจริงๆ!!! ตอนนั่นผมทั้งดีใจ และเสียดายพร้อมทั้งกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เพราะผมเหลือเวลาในการทำผลงานยื่นเพื่อเอาไปใช้ในตอนสอบสัมภาษณ์แค่
3 วัน!!!!! เวลาอีกไม่ถึง72ชั่วโมงหลังจากนั้นผมจึงตั้งหน้าตั้งตาผลิตผลงานออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้
จนถึงคืนก่อนวันสอบสัมภาษณ์ผมยังนั่งทำผลงานจนถึง ตี4 พอถึงเช้าค่ำวันสอบสัมภาษณ์ผมออกเดินทางจากบ้านที่อยู่ฝั่งธนบุรีเพื่อมาสอบสัมภาษณ์ที่ลาดกระบัง ในเช้าวันนั้นผมได้มาพร้อมกับความตื่นเต้นและหวั่นไหว แต่พอมาถึงหน้าห้องสอบสัมภาษณ์ ช่วงเวลานั้นผมก็ได้คิดในใจว่า ”ถึงแม้ว่าเราไม่ได้เตรียมตัวมาดี แต่ก็อาศัยเอาความหน้าด้าน
และความตั้งใจแทนละกันวะ” แล้วผมก็ก้าวเดินเข้าไปในห้องสอบพร้อมกับความมั่นใจ และคำถามแรกในการสอบของผมคือ คุณจะไว้ผมยาวมั้ย?!!!...หลังจากการสอบเสร็จสิ้นลงผมเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม และผมได้ตระหนักแล้วว่า การเรียนสถาปัตย์มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว...
ช่วงปี1-4
ในช่วงเวลานี้ผมไม่สามารถที่จะบรรยายเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาได้ทั้งหมด
เพราะผมเหลือเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงที่จะต้องส่งบทความชุดนี้ก่อนเที่ยงคืน ดังนั้นผมจึงจะขอสรุปช่วงชีวิตในการเรียนแต่ละชั้นปีสั้นๆว่า ผมเหนื่อยกายแต่สบายใจ
จนถึงวันนี้
ที่ได้เริ่มเรียนวิชาการประกอบวิชาชีพ ผมมีความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาชีพสถาปนิกนั้นเป็นอาชีพหนึ่งที่คอยให้บริการและรับใช้สังคม โดยไม่ได้อาศัยแค่ความรู้ทางด้านการออกแบบเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย
สถาปนิก Idol
ของผมคือ รศ.วิวัฒน์
เตมียพันธ์ (อ.จิ๋ว)
สุดท้ายนี้
วันนี้ผมก็ได้พบกับโจทย์สมการใหม่ในชีวิตของผม “ผมชอบวาดรูป
ผมเรียนสถาปัตย์ และผมชอบฝันกลางวัน”?!!!